เรื่องราวลึกลับที่ชวนพิศวงในโลกนี้มีอยู่มากมายหลายเรื่องทีเดียว บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้ ทั้งนี้หนึ่งในเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็มีเรื่องราวของหลุมประหลาด วันนี้เราจึงมี 5 หลุมประหลายที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่เกิดจากทั้งธรรมชาติ หรือจากบางสิ่งบางอย่าง มาให้คุณได้อึ้งกัน
1. The Son Doong Cave
ถ้ำซอนดุงเป็นถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปากหลุมของถ้ำมีขนาดมหึมา ถูกค้นพบในปี 2009 ที่เมือง กง บินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับนักวิทยา่ศาสตร์เป็นอย่างมาก
ภายในถ้ำมีป่าที่เขียวชะอุ่ม มีน้ำตกหลายแห่ง มีหินงอกและหินย้อยขนาดยักษ์ อีกทั้งยังมีแม่น้ำใหญ่ สูงกว่า 80 เมตร กว้าง 80 เมตร มีระยะทางยาวไม่น้อยกว่า 4.5 กิโลเมตร ขนาดโถงที่สูงที่สุดของถ้ำคือ สูง 1400 เมตร กว้าง 1400 เมตรสามารถสร้างตึกระฟ้าสูงขนาด 40 ชั้นได้อย่างสบายๆ ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากจริงๆ
2. The Black Hole Of Andros หลุมดำแห่งอันดรอส ที่ บาฮามาส
พื้นที่แห่งนี้มีหลุมที่มีแหล่งของชั้นหินปูนที่ลึกลับที่สุดของโลก ซึ่งหลุ่มที่รู้จักกันดีที่สุดของพื้นที่แห่งนี้ก็คือ หลุมดำแห่งอันดรอส เป็นหนึ่งในบรรดาหลุมลึกใต้ทะเลของบาฮามาส ถูกพบครั้งแรกในปี 1985 หลังจากที่ได้มีเครื่องบิน บินผ่านพื้นที่ตรงนี้ ก็ได้เห็นว่าทั่วทั้งบริเวณมีหลุมต่างๆ เต็มไปหมด อีกทั้งน้ำยังมีสีดำผิดปกติ ซึ่งมาการคาดว่าหลุมเหล่านี้คือหลุมอุกกาบาต
หลุมดำของอันดรอส จะมีสีของน้ำทะเลที่แตกต่างจากหลุมอื่น เพราะมันมีสีเข้มมาก ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความลึกของหลุม มันได้รับการสำรวจครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์และนักดำน้ำที่ชื่อ Steffi Schwabe โดยนักดำน้ำคนหนึ่งอธิบายว่า เมื่อพวกเขาว่ายน้ำลึกลงไป ภายใต้นั้น พบว่าเป็นชั้นบางๆ ของน้ำ พวกเขาอธิบายว่า น้ำข้างใต้นี้มีสภาพเหมือนเจลลี่
3. The Sawmill Sink แห่งบาฮามาส
The Sawmill Sink เป็นหลุมสีน้ำเงินอีกหลุมหนึ่งที่ถูกพบในบาฮามาส ซึ่งมันมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นที่ตั้งของการขุดค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ในระยะตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา แลัยังพบซากฟอสซิลในหลุมแห่งนี้ มีทั้งซากของเต่ายักษ์ ซากของพืชสีเขียวที่มันยังเก็บคลอโรฟิลอย่างสมบูรณ์เอาแบบไว้ ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือซากของจระเข้ยักษ์ที่นักวิจัยเชื่อว่ามันถูกฆ่าตายโดยคนในพื้นที่
ที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งของหลุมแห่งนี้คือ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหลุมดิน แต่น้ำในหลุมกลับไม่เคยแห้งแม้แต่น้อย มันจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดและเต็มไปด้วยน้ำอยู่เสมอ เช่นนี้จึงทำให้มันสามารถรักษาซากกระดูกต่างๆ เอาไว้ได้
4. Devil ' s Sinkhole หลุมของปีศาจที่รัฐเท็กซัส
หลุมของปีศาจ เป็นหลุมขนาดใหญ่ ข้างใต้เป็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ มีขนาดปากหลุมประมาณ 15 เมตร ลึกลงไปเป็นถ้าขนาด 106 เมตร ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวกว่า 3 ล้านตัว ในปัจบันหลุ่มแห่งนี้ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ประวัติศาสตร์ของหลุมแห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ พบว่าหลุมนี้กำเนิดมายาวนานกว่า 4000-2500 ปีก่อน บ้างก็ว่าถ้ำถูกถล่มโดยพวกล่าสมบัติ ต่อมาก็ใช้เป็นที่พักพิงของกลุ่มคาวบอย ซึ่งประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ถูกทำลายลงเพราะมีผู้ผลิตปุ๋ยแอมโมเนียเข้ามาเก็บเกี่ยวขี้ค้างคาวจากในถ้ำ ทำให้หลักฐานหลายอย่างถูกทำลายไป
5. Mount Baldy 's Mysterious Holes หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้
Mount Baldy 's Mysterious Holes หรือที่แปลว่า ภูเขาหัวล้าน ที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานดิโอ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามีความยาวประมาณ 12 ไมล์ เป็นที่ที่คนมันมาพักผ่อนหย่อนใจหรือเดินสำรวจ
จนกระทั่งในปี 2013 ได้เกิดเรื่องประหาดขึ้น เมื่อ Nathan Woessner วัย 6 ขวบ กำลังเดินสำรวจอยู่ในบริเวณนี้ จู่ๆ ก็ได้เกิดหลุมทรายดูดขึ้น หนูน้อยรายนี้ถูกดูดลงไปใต้พื้นทรายลึกกว่า 3 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงนำตัวหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย
เรื่องดังกล่าวสร้างความงุงงงให้กับนักธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก เพราะภูมิทัศน์ของเขาหัวล้านเป็นทราย ซึ่งไม่น่าจะสร้างอากาศจนเป็นเหตุให้เกิดหลุมยุบ หรือทรายดูดได้ แม้จะใช้เรด้าห์ตรวจจับก็ยังไม่พบช่องว่างที่จะทำให้เกิดหลุม แต่หลุมได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้รัฐบาลสั่งปิดปิดอุทยาน จนถึงวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงสรุปไม่ได้ว่าหลุมยุบเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ขอขอบคุณ ที่มา : patjaa.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
1. The Son Doong Cave
ถ้ำซอนดุงเป็นถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปากหลุมของถ้ำมีขนาดมหึมา ถูกค้นพบในปี 2009 ที่เมือง กง บินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับนักวิทยา่ศาสตร์เป็นอย่างมาก
ภายในถ้ำมีป่าที่เขียวชะอุ่ม มีน้ำตกหลายแห่ง มีหินงอกและหินย้อยขนาดยักษ์ อีกทั้งยังมีแม่น้ำใหญ่ สูงกว่า 80 เมตร กว้าง 80 เมตร มีระยะทางยาวไม่น้อยกว่า 4.5 กิโลเมตร ขนาดโถงที่สูงที่สุดของถ้ำคือ สูง 1400 เมตร กว้าง 1400 เมตรสามารถสร้างตึกระฟ้าสูงขนาด 40 ชั้นได้อย่างสบายๆ ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากจริงๆ
2. The Black Hole Of Andros หลุมดำแห่งอันดรอส ที่ บาฮามาส
พื้นที่แห่งนี้มีหลุมที่มีแหล่งของชั้นหินปูนที่ลึกลับที่สุดของโลก ซึ่งหลุ่มที่รู้จักกันดีที่สุดของพื้นที่แห่งนี้ก็คือ หลุมดำแห่งอันดรอส เป็นหนึ่งในบรรดาหลุมลึกใต้ทะเลของบาฮามาส ถูกพบครั้งแรกในปี 1985 หลังจากที่ได้มีเครื่องบิน บินผ่านพื้นที่ตรงนี้ ก็ได้เห็นว่าทั่วทั้งบริเวณมีหลุมต่างๆ เต็มไปหมด อีกทั้งน้ำยังมีสีดำผิดปกติ ซึ่งมาการคาดว่าหลุมเหล่านี้คือหลุมอุกกาบาต
หลุมดำของอันดรอส จะมีสีของน้ำทะเลที่แตกต่างจากหลุมอื่น เพราะมันมีสีเข้มมาก ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความลึกของหลุม มันได้รับการสำรวจครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์และนักดำน้ำที่ชื่อ Steffi Schwabe โดยนักดำน้ำคนหนึ่งอธิบายว่า เมื่อพวกเขาว่ายน้ำลึกลงไป ภายใต้นั้น พบว่าเป็นชั้นบางๆ ของน้ำ พวกเขาอธิบายว่า น้ำข้างใต้นี้มีสภาพเหมือนเจลลี่
3. The Sawmill Sink แห่งบาฮามาส
The Sawmill Sink เป็นหลุมสีน้ำเงินอีกหลุมหนึ่งที่ถูกพบในบาฮามาส ซึ่งมันมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นที่ตั้งของการขุดค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ในระยะตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา แลัยังพบซากฟอสซิลในหลุมแห่งนี้ มีทั้งซากของเต่ายักษ์ ซากของพืชสีเขียวที่มันยังเก็บคลอโรฟิลอย่างสมบูรณ์เอาแบบไว้ ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือซากของจระเข้ยักษ์ที่นักวิจัยเชื่อว่ามันถูกฆ่าตายโดยคนในพื้นที่
ที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งของหลุมแห่งนี้คือ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหลุมดิน แต่น้ำในหลุมกลับไม่เคยแห้งแม้แต่น้อย มันจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดและเต็มไปด้วยน้ำอยู่เสมอ เช่นนี้จึงทำให้มันสามารถรักษาซากกระดูกต่างๆ เอาไว้ได้
4. Devil ' s Sinkhole หลุมของปีศาจที่รัฐเท็กซัส
หลุมของปีศาจ เป็นหลุมขนาดใหญ่ ข้างใต้เป็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ มีขนาดปากหลุมประมาณ 15 เมตร ลึกลงไปเป็นถ้าขนาด 106 เมตร ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวกว่า 3 ล้านตัว ในปัจบันหลุ่มแห่งนี้ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ประวัติศาสตร์ของหลุมแห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ พบว่าหลุมนี้กำเนิดมายาวนานกว่า 4000-2500 ปีก่อน บ้างก็ว่าถ้ำถูกถล่มโดยพวกล่าสมบัติ ต่อมาก็ใช้เป็นที่พักพิงของกลุ่มคาวบอย ซึ่งประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ถูกทำลายลงเพราะมีผู้ผลิตปุ๋ยแอมโมเนียเข้ามาเก็บเกี่ยวขี้ค้างคาวจากในถ้ำ ทำให้หลักฐานหลายอย่างถูกทำลายไป
5. Mount Baldy 's Mysterious Holes หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้
Mount Baldy 's Mysterious Holes หรือที่แปลว่า ภูเขาหัวล้าน ที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานดิโอ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามีความยาวประมาณ 12 ไมล์ เป็นที่ที่คนมันมาพักผ่อนหย่อนใจหรือเดินสำรวจ
จนกระทั่งในปี 2013 ได้เกิดเรื่องประหาดขึ้น เมื่อ Nathan Woessner วัย 6 ขวบ กำลังเดินสำรวจอยู่ในบริเวณนี้ จู่ๆ ก็ได้เกิดหลุมทรายดูดขึ้น หนูน้อยรายนี้ถูกดูดลงไปใต้พื้นทรายลึกกว่า 3 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงนำตัวหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย
เรื่องดังกล่าวสร้างความงุงงงให้กับนักธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก เพราะภูมิทัศน์ของเขาหัวล้านเป็นทราย ซึ่งไม่น่าจะสร้างอากาศจนเป็นเหตุให้เกิดหลุมยุบ หรือทรายดูดได้ แม้จะใช้เรด้าห์ตรวจจับก็ยังไม่พบช่องว่างที่จะทำให้เกิดหลุม แต่หลุมได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้รัฐบาลสั่งปิดปิดอุทยาน จนถึงวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงสรุปไม่ได้ว่าหลุมยุบเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ขอขอบคุณ ที่มา : patjaa.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต