เชร็ค (Shrek) การ์ตูนแอนิเมชันชื่อดังเกี่ยวกับ ยักษ์ตัวเขียว หน้าตาอัปลักษณ์ ที่บังเอิญเข้าไปช่วยเจ้าหญิงฟีโอนาจากหอคอย และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันกันจริงๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งเนื้อเรื่องและตัวละคร (จากหลายๆ เรื่องเข้ามารวมกัน) และสร้างออกมาถึง 4 ภาคด้วยกัน! และเพื่อนๆ รู้ไหมว่า ตัวละคร เชร็ค นั้นสร้างมาจากคนที่มีตัวตนอยู่จริง! ชายคนนี้ชื่อ Maurice Tillet (มอริซ ทิลเล็ท) เขาเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพชาวฝรั่งเศส
จากเรื่องจริง! มอริซ ทิลเล็ท มนุษย์ต้นแบบ เชร็ค (Shrek)
มอริซเกิดในปี 1903 ในตอนเด็กนั้นเขาก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป เพื่อนๆ จะชอบเรียกเขาว่า “แองเจิล” เพราะเขามีหน้าตาหล่อเหลาทีเดียว อีกทั้งมอริซเป็นเด็กที่ฉลาดมาก เรียนเก่งเป็นตัวท๊อปของห้อง เขาสามารถพูดได้ถึง 14 ภาษา มีพรสวรรค์ในการแต่งกลอน ร้อยแก้ว รวมถึงการเล่นหมากรุก และถึงแม้ว่ามอริซจะเรียนจบจากโรงเรียนกฏหมาย แต่ความใฝ่ฝันของเขาคือการเป็นนักแสดง
ดูเหมือนชีวิตของมอริซช่างเพอร์เฟคอะไรเช่นนี้ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อมอริซอายุได้ 20 ปี อยู่ๆ ก็เกิดความผิดปกติทางร่างกาย ซึ่งเขาได้ไปพบแพทย์และวินิฉัยออกมาว่า เขามีสภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับมวลกระดูกที่มีมากเกินไปและมีความหนาเป็นกว่าปกติ หรือเรียกว่า “Acromegaly” เมื่อเป็นเช่นนี้มอริซจึงต้องเลิกอาชีพการเป็นนักกฏหมาย เพราะเขารู้สึกว่าผู้คนในชั้นศาลนั้นไม่ยอมรับในตัวเขานั่นเอง เพื่อนๆ คิดว่าความผิดปกตินี้ทำให้ชีวิตเขาต้อยต่ำหรือแย่ลงหรือ? … ความจริงคือ “ไม่มีทาง!”
Advertisement
มอริซเก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอเมริกา และเขาคิดว่าจะใช้ความผิดปกติของตัวเองเนี่ยแหละให้มีประโยชน์! หลังจากเข้ามาในเมืองใหญ่เขาก็หันมาเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ โดยใช้ชื่อว่า “French Angel” (เฟรนช์ แองเจิล) ซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตของเขาในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปี 1940 นอกจากเขาจะได้รับความนิยมจากแฟนๆ เป็นจำนวนมากแล้ว เขายังเป็นที่สนใจของสื่อนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ หลายฉบับ ต่างก็ทำข่าวของเขาเมื่อเขาไปแข่งขันในเมืองต่างๆ และจากจุดเริ่มต้นในครั้งนี้ก็ทำให้ความฝันของเขากลายเป็นจริง คือการเป็นนักแสดง! เขาได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และประสบความสำเร็จมากเช่นกัน
ในปี 1953 Maurice Tillet (มอริซ ทิลเล็ท) ได้เสียชีวิตลง ไม่ใช่เพราะโรคที่เขาเป็น แต่เกิดจากโรคหัวใจ ซึ่งเพียงไม่นานก่อนที่เขาจะเสีย เพื่อนสนิทของเขาได้สร้างประติมากรรมปูนปลาสเตอร์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่เขาในฐานะนักมวยปล้ำอาชีพ ซึ่งตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Chicago’s International Museum of Surgical Science.
ขอบคุณข้อมูล www.bizarbin.com, teen.mthai.com
จากเรื่องจริง! มอริซ ทิลเล็ท มนุษย์ต้นแบบ เชร็ค (Shrek)
มอริซเกิดในปี 1903 ในตอนเด็กนั้นเขาก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป เพื่อนๆ จะชอบเรียกเขาว่า “แองเจิล” เพราะเขามีหน้าตาหล่อเหลาทีเดียว อีกทั้งมอริซเป็นเด็กที่ฉลาดมาก เรียนเก่งเป็นตัวท๊อปของห้อง เขาสามารถพูดได้ถึง 14 ภาษา มีพรสวรรค์ในการแต่งกลอน ร้อยแก้ว รวมถึงการเล่นหมากรุก และถึงแม้ว่ามอริซจะเรียนจบจากโรงเรียนกฏหมาย แต่ความใฝ่ฝันของเขาคือการเป็นนักแสดง
ดูเหมือนชีวิตของมอริซช่างเพอร์เฟคอะไรเช่นนี้ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อมอริซอายุได้ 20 ปี อยู่ๆ ก็เกิดความผิดปกติทางร่างกาย ซึ่งเขาได้ไปพบแพทย์และวินิฉัยออกมาว่า เขามีสภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับมวลกระดูกที่มีมากเกินไปและมีความหนาเป็นกว่าปกติ หรือเรียกว่า “Acromegaly” เมื่อเป็นเช่นนี้มอริซจึงต้องเลิกอาชีพการเป็นนักกฏหมาย เพราะเขารู้สึกว่าผู้คนในชั้นศาลนั้นไม่ยอมรับในตัวเขานั่นเอง เพื่อนๆ คิดว่าความผิดปกตินี้ทำให้ชีวิตเขาต้อยต่ำหรือแย่ลงหรือ? … ความจริงคือ “ไม่มีทาง!”
Advertisement
มอริซเก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอเมริกา และเขาคิดว่าจะใช้ความผิดปกติของตัวเองเนี่ยแหละให้มีประโยชน์! หลังจากเข้ามาในเมืองใหญ่เขาก็หันมาเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ โดยใช้ชื่อว่า “French Angel” (เฟรนช์ แองเจิล) ซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตของเขาในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปี 1940 นอกจากเขาจะได้รับความนิยมจากแฟนๆ เป็นจำนวนมากแล้ว เขายังเป็นที่สนใจของสื่อนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ หลายฉบับ ต่างก็ทำข่าวของเขาเมื่อเขาไปแข่งขันในเมืองต่างๆ และจากจุดเริ่มต้นในครั้งนี้ก็ทำให้ความฝันของเขากลายเป็นจริง คือการเป็นนักแสดง! เขาได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และประสบความสำเร็จมากเช่นกัน
ในปี 1953 Maurice Tillet (มอริซ ทิลเล็ท) ได้เสียชีวิตลง ไม่ใช่เพราะโรคที่เขาเป็น แต่เกิดจากโรคหัวใจ ซึ่งเพียงไม่นานก่อนที่เขาจะเสีย เพื่อนสนิทของเขาได้สร้างประติมากรรมปูนปลาสเตอร์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่เขาในฐานะนักมวยปล้ำอาชีพ ซึ่งตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Chicago’s International Museum of Surgical Science.
ขอบคุณข้อมูล www.bizarbin.com, teen.mthai.com