ในประเทศญี่ปุ่น พระอิคคิวซัง มีตัวตนอยู่จริงและยังมีหลักฐานต่างๆ ที่ยืนยันว่า “อิคคิวซัง” ไม่ได้เป็นแค่การ์ตูน แต่กลับเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ประวัติอิคคิวซัง
เกิดเมื่อปี ค.ศ.1394 ที่เมืองเกียวโต เป็นราชบุตรของพระจักรพรรดิโกโคมัตสึ และเจ้าจอมอิโยะ เนื่องจากปัญหาการเมืองภายในของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ทำให้ท่านและท่านแม่ของท่านต้องออกจากวัง เมื่ออิคคิวซังมีอายุได้ 5 ขวบ ท่านได้ถูกแยกจากแม่และส่งไปบวชที่วัดอังโคะคุจิ เมืองเกียวโต นิกายรินไซเซน เดิมจริงๆ แล้วตอนเด็ก อิคคิวซังท่านมีชื่อว่า เซนงิคุมารุ ต่อมาเมื่อท่านบวชเป็นเณรที่วัดอังโคะคุจิ ท่านได้รับชื่อใหม่ว่า ชูเค็น
รูปวาดของท่านอิคคิวซังตัวจริงยามแก่
วัดอังโคะคุจิ เป็นวัดเล็กๆบนภูเขาเคโตคุและเป็นวัดที่ได้รับการดูแลจากโชกุนอะชิคางะทาคาอุจิ วัดนี้อยู่ที่เกียวโต
ต่อมาท่านได้ย้ายไปอยู่วัดไซคินจิ ซึ่งเป็นวัดเล็กๆ ยากจนอยู่กับหลวงพ่อเคนโอ (Keno) ที่นี่ชูเคนได้เรียนรู้เซนที่แท้จริง หลวงพ่อเคนโอได้ตั้งชื่อให้ชูเคนใหม่ว่า โซจุน ท่านอิคคิวอยู่ที่นี่จนอายุได้ 21 ปี หลวงพ่อเคนโอก็มรณภาพ โซจุนเสียใจเป็นอย่างมากต่อการตายของหลวงพ่อเคนโอ จนถึงขนาดฆ่าตัวตายโดยการเดินลงไปในทะเลสาบบิวะ (Biwa) แต่โชคดีมีคนมาช่วยไว้
หลังจากนั้นโซจุนได้ไปหาหลวงพ่อคะโซ (Kaso) ที่วัดเซนโกอัน (Zenko-an) ซึ่งเป็นสาขาของวัดไดทกกุ ซึ่งเป็นวัดสำคัญในสมัยนั้น วันหนึ่งหลวงพ่อคะโซได้ตั้งปริศนาธรรมให้แก่โซจุน เมื่อโซจุนแก้ปัญหาได้แล้ว หลวงพ่อคะโซพอใจมากและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อิคคิว
หลวงพ่อถามอิคคิวว่า “รู้หรือไม่ว่าคำว่าอิคคิวมีความหมายว่าอย่างไร?”
อิคคิวตอบเป็นกลอนว่า
ขอพักสักครู่หนึ่ง
ระหว่างทางจากโลกียะ
ถึงโลกุตตระ
หากฝนจะตกก็ตกเถิด
หากลมจะพัดก็พัดเถิด
(นาม อิคคิว แปลว่า พักสักครู่)
รูปปั้นของท่านอิคคิวซังตอนเป็นสามเณร
ท่านอิคคิวเป็นเณรน้อยอารมณ์ดีอย่างที่เห็นในรูปและเก่งในการเล่นคำ
ท่านอิคคิวตัวจริงเป็นพระเซนชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งรูปปั้นของท่านในวัยผู้ใหญ่ก็แสดงให้เห็นถึงความสูงส่งและชาญฉลาดของท่าน
นิสัยจริงของท่านอิคคิว ต่างจากที่เห็นในการ์ตูนอิคคิวซังมาก ในการ์ตูนท่านอิคคิวเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย แต่ตัวจริงท่านมักจะมีความคิดที่แตกต่างจากผู้คนรอบตัวท่านอยู่เสมอ ดังนั้นท่านคะโซจึงมอบตำแหน่งเจ้าอาวาสให้แก่ศิษย์รุ่นพี่ของท่านอิคคิว ส่วนท่านอิคคิวก็ออกพเนจรไปตามที่ต่างๆ ซึ่งทำให้ท่านได้มีโอกาสพบปะกับศิลปินและกวีที่มีชื่อเสียงมากมายในยุคนั้น และก็ได้พบกับคนรักของท่านที่เป็นนักร้องเพลงสาวตาบอดที่ชื่อว่า โมริ (Mori) ท่านอิคคิวท่องเที่ยวอยู่หลายปีจนในที่สุดเมื่อเกิดสงครามโอนิน ซึ่งทำให้วัดไดทกกุถูกทำลายจนเป็นเถ้าถ่าน ท่านอิคคิวจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเพื่อทำการฟื้นฟู แต่ท่านอิคคิวอยู่ที่วัดไดทกกุเพียงไม่นาน ท่านก็ไปอยู่ที่วัดอิคคิวจิ ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่ท่านอยู่ ศพของท่านก็ฝังอยู่ที่นี่ ในปี ค.ศ.1481 ท่านอิคคิวได้ถึงแก่มรณภาพเมื่ออายุได้ 87 ปี
หลุมฝังศพของท่านอิคคิวซึ่งท่านสร้างด้วยตัวเองในวัย 82 ปี เมื่อปี ค.ศ. 1475
เรื่องที่เป็นที่รู้จักกันดีเรื่องหนึ่งของท่านอิคคิวก็คือป้ายที่หน้าสะพานซึ่งเขียนไว้ว่า ห้ามข้ามสะพาน ท่านอิคคิวเมื่อได้เห็นป้ายดังกล่าวแล้ว ท่านก็เดินข้ามสะพานไปตรงกลางทางเดินของสะพานโดยไม่มีการลังเลใจ ท่านจึงถูกจับ แต่ท่านก็ได้อธิบายว่าท่านไม่ได้เดินข้ามที่ขอบสะพานแต่ท่านเดินข้ามที่กลางสะพาน ในภาษาญี่ปุ่นนั้นคำว่า ฮาชิ มีสองความหมายคือ สะพานและขอบ
สะพานจำลองเหตุการณ์ปริศนาเรื่องสะพาน
ป้ายหินซึ่งมีอักษรที่เขียนโดยท่านอิคคิว
ภาพแสดงถึงท่านอิคคิวเดินถือไม้เท้าที่มีหัวกะโหลกเพื่อแสดงปริศนาธรรมแก่ผู้คนทั่วไป วาดโดย โยชิโตชิ สึกิโอกะ (YOSHITOSHI TSUKIOKA) ปี ค.ศ. 1886
ผลงานบางส่วนของบทกวีที่แต่งโดยท่านอิคคิว
หนังสือเรื่องอิคคิวซังตัวจริง เขียนโดยมาซาโอะ โคงุเร (แปลโดย พรอนงค์ นิยมค้า)
ข้อมูลและภาพจาก marumura