ศาลไต้หวันตัดสินให้สามีภรรยาคู่หนึ่งหย่าขาดจากกัน เหตุสามีไม่ยอมตอบไลน์ภรรยา ได้แต่อ่านอย่างเดียว ศาลระบุเป็นหลักฐานสำคัญ ชี้ว่าไม่สนใจอีกฝ่าย
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นางหลิน หญิงชาวไต้หวันคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องหย่าสามีของเธอ เหตุเพราะเขาปล่อยปละละเลย ไม่สนใจข้อความที่เธอส่งไปหาเขาทางไลน์ (Line) โดยอ่านอย่างเดียวแต่ไม่เคยส่งข้อความตอบกลับหาเธอเลย แม้แต่ข้อความเดียว
การ "อ่านแล้วไม่ตอบ" นั้น ยังถูกเรียกว่า บลู-ทิกกลิง (Blue-Tickling) ซึ่งอ้างถึงฟังก์ชั่นที่บรรจุมาในแอปฯ แชทต่าง ๆ เช่น วอทแอป (WhatsApp) โดยเมื่อเราส่งข้อความหาใครสักคนไป ถ้าอีกฝ่ายได้รับและกดเปิดอ่านแล้ว จะมีเครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏท้ายข้อความ สำหรับไลน์ จะขึ้นว่า Read หรือ อ่านแล้ว
สำหรับชีวิตแต่งงานของหลินนั้น เธอเป็นหญิงอายุ 50 กว่า เคยผ่านการแต่งงานแล้วเลิกรามาครั้งหนึ่ง ส่วนสามีของเธออายุ 40 กว่า ๆ หลินย้ายเข้ามาอยู่บ้านสามีหลังแต่งงาน แต่เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมีแม่ น้องชาย และน้องสะใภ้ อาศัยอยู่ ด้วยความที่รายได้ของสามีเธอนั่นไม่แน่นอน หลินจึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในบ้านทั้งหมด แถมแม่สามียังเอ่ยปากขอยืมเงินเธอเพื่อไปจ่ายค่าภาษีให้พ่อสามีอีกด้วย
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ ครอบครัวของสามียังปฏิบัติกับหลินอย่างเลวร้าย พวกเขาคอยจุกจี้จู้จี้เธอหลายอย่าง จะอาบน้ำแต่ละครั้งก็มาคอยกำหนดว่าห้ามเปิดน้ำร้อนอุณหภูมิเกินเท่านั้นเท่านี้ ชีวิตคู่ของหลินนั้นไม่มีความสุขมากนัก แต่เรื่องการไม่ตอบไลน์ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอหมดความอดทน
สามีของหลินไม่ตอบข้อความไลน์เป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว ไม่ว่าจะส่งอะไรไป เขาก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาหาเธอ ครั้งหนึ่งหลินประสบอุบัติเหตุรถชน เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและรอการรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เธอส่งไลน์ไปบอกสามีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ทำเหมือนเดิม นั่นคืออ่านแล้วไม่ตอบ
ประมาณ 1-2 เดือนหลังเกิดอุบัติเหตุ สามีก็ส่งข้อความไลน์มาหาหลินในที่สุด แต่ข้อความที่เขาส่งกลับมาระบุว่ามีพัสดุส่งมาถึงเธอ และพูดเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสุนัขของพวกเขา ไม่มีส่วนที่แสดงถึงความห่วงใยในตัวภรรยาเลยแม้แต่นิดเดียว
จากกรณีดังกล่าว ผู้พิพากษาศาลครอบครัวจังหวัดซินจู๋ ระบุว่า การที่สามีของหลินไม่ตอบข้อความที่เธอส่งไปหาเขาทางไลน์นั้น มันบ่งชี้ว่าเขาไม่สนใจภรรยาและเธอสามารถใช้หลักฐานนี้ฟ้องหย่าเขาได้ ถึงแม้ว่าสามีจะตามมาเยี่ยมหลินที่โรงพยาบาลในภายหลัง แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างหลักฐานแห่งการละเลยนี้ได้
"คนที่เป็นคู่รักกันไม่ควรปฏิบัติต่อกันเช่นนี้ ข้อความในไลน์คือหลักฐานชิ้นสำคัญ มันบ่งชี้ให้เห็นถึงชีวิตสมรสของโจทก์และจำเลย ว่าทั้งคู่มีปัญหาด้านการติดต่อสื่อสาร ตอนนี้อินเทอร์เน็ตเป็นอะไรที่แพร่หลาย ข้อมูลในอดีตเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้"
"ข้อความที่โจทก์ส่งไปหาจำเลยนั้นถูกเปิดอ่าน แต่ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าจำเลยปล่อยปละละเลยไม่สนใจโจทก์ ศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน" ผู้พิพากษาศาลครอบครัวเมืองซินจู๋ ประกาศในชั้นศาล
ทั้งนี้คำตัดสินของศาลจะถูกส่งไปทางจดหมาย เมื่อสามีของหลินได้รับแล้ว เขาสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาคงไม่ทำเช่นนั้น เพราะตลอดการพิจารณาคดีนี้ เขาไม่เคยปรากฏตัวในศาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว และด้วยความผลการตัดสินมันอยู่ในรูปของกระดาษ จึงไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า สามีหลินจะ "อ่านแล้วไม่ตอบ" เหมือนกับที่ทำในไลน์หรือไม่